ศุภาลัย ปรับกลยุทธ์รุกตลาดคอนโดฯ อิงดีมานด์กลุ่มราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาท นำร่องเปิดขาย “ศุภาลัย ลอฟท์ รัชดาฯ-วงศ์สว่าง” โครงการมูลค่าสูงรับต้นปีถึง 3,200 ล้านบาท เน้นเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ กลุ่มวัยทำงาน เป้าพรีเซลส์ 40-50% เผยลูกค้าจีนและต่างชาติกลับมายังไม่เต็มที่ อาจเห็นช่วงไตรมาส 3 ปีนี้ หรือลุ้นปลายปี

นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงสถานการณ์ทิศทางตลาดคอนโดมิเนียมในปี2565 ว่า ตลาดได้รับผลกระทบจากการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 มาต่อเนื่องถึง 2 ปี ทั้งเรื่องกำลังซื้อ ซึ่งต่างกับโครงการแนวราบที่มีหลายโครงการได้รับผลบวกจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้ซื้อ และหากสถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลาย หวังจะได้เห็นทิศทางของตลาดคอนโดฯ ที่ดีขึ้น โดยจากผลการวิจัยของศุภาลัย พบว่า ตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นมา การเปิดตัวคอนโดฯ ใหม่ราคาไม่เกิน 3 ล้านบาทมีสัดส่วนที่มากขึ้น มีความต้องการเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะเป็นหนึ่งในโปรดักต์ที่จะขับเคลื่อนตลาดคอนโดฯ ได้

“ราคาช่วงก่อนหน้านี้ ปี 60 ถึงปี 62 จะเป็นสินค้าราคาเกินกว่า 3 ล้านบาท ผู้ประกอบการเร่งออกโครงการเพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าคนจีนและต่างชาติ แต่ผลจากการชะลอเปิดคอนโดฯ ทำให้ยอดซื้อขายลดลง บวกกับความกังวลเรื่องโควิด แต่เมื่อดูจากข้อมูลจะเห็นได้ว่า ตลาดคอนโดฯ ต่ำกว่า 3 ล้านบาท เป็นกลุ่มเรียลดีมานด์แม้ซัปพลายจะลดลงเกินครึ่ง แต่จะเห็นการซื้อขายที่สูงอยู่ แม้จะลดลงไปบ้าง เนื่องจากซัปพลายราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาทมีน้อยลง”

ทั้งนี้ หากมองในกลุ่มลูกค้าซื้อหวยออนไลน์ถูกกฎหมายมั่นใจได้ต่างชาติแล้ว เรามองว่าในอดีตสัดส่วนมูลค่าของโควตาต่างชาติน่าจะเกินกว่า 20% ซึ่งโอกาสที่ตลาดต่างชาติจะกลับมาในเร็วๆ นี้คงต้องใช้เวลา เนื่องจากรัฐบาลจีนมีนโยบายป้องกันเรื่องโควิดอย่างเต็มที่ คาดว่าในปี 65 ตลาดลูกค้าชาวจีนยังไม่กลับมาเต็มที่ ถ้ามองในเชิงบวก อาจจะเริ่มเห็นอย่างเร็วในไตรมาส 2 หรือปลายไตรมาส 3 ของปีนี้ และหวังว่าอย่างช้าสุดคงเป็นปลายปี 65 ดังนั้น เราคงต้องโฟกัสในกลุ่มลูกค้าคนไทย ตลาดกลุ่ม 3 ล้านบาท ยังมีดีมานด์ค่อนข้างชัดเจน

“ถ้าเรามองเรื่องการฟื้นตัวของกำลังซื้อ ถ้าเป็นวิกฤตเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็นช่วงเกิดต้มยำกุ้ง หรือวิกฤตสินเชื่อซับไพรม์ กลุ่มระดับบนจะกลับมาก่อน แต่ครั้งนี้รายละเอียดเปลี่ยนไป สินค้าคอนโดฯ ระดับบนอยู่ในภาวะโอเวอร์ซัปพลาย”

สำหรับทิศทางธุรกิจของบริษัทศุภาลัยในปี 65 นั้น ยังไม่สรุปชัดเจน เพราะอยู่ในขั้นตอนเสนอแผนต่อคณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัทฯภายในเดือนนี้ ซึ่งในปีผ่านมา ภาพรวมการเปิดโครงการที่อยู่อาศัย มีจำนวน 23 โครงการ มูลค่าโครงการ 24,800 ล้านบาท จากเป้า 28 โครงการ มูลค่า 27,000 ล้านบาท โดยมีโครงการคอนโดฯ และแนวราบขยับเลื่อนมาเปิดตัวในปี 65 ทั้งนี้ ในเบื้องต้นของแผนเปิดโครงการคอนโดฯ ในปีนี้ อาจเท่ากับปีที่ผ่านมา 2 โครงการ หรือมากกว่า ขึ้นอยู่สภาพตลาดและความต้องการซื้อของลูกค้าในประเทศ และสถานการณ์โควิด

“เรื่องโควิดเรายังกังวลอยู่ แสดงว่ายังมีโอกาสที่จะระบาดได้ เวลาทำแผนธุรกิจไม่ได้ใส่อะไรเข้าไปเต็มที่ ทำแผนแบบหลวมๆ ไว้ก่อน แต่เราใส่ความเสี่ยงจากโควิดเข้าไป จะเห็นได้ว่า ที่ผ่านมา ศุภาลัยดำเนินธุรกิจด้วยความระมัดระวัง ทำให้ไม่ได้รับผลกระทบมากนัก ประกอบกับมีความแข็งแกร่งทางด้านการเงินอยู่ จะใช้จังหวะของสถานการณ์ให้เป็นประโยชน์ สามารถหาที่ดินได้ตลอดและพร้อมเปิดโครงการเพิ่มเติมได้ รวมถึงที่ผ่านมาไม่มีการเลย์ออฟพนักงานออก แสดงให้เห็นว่า สิ่งที่เราทำมาบอกได้ว่า เราต้องเผื่อใจเกิดวิกฤตตลอดเวลา ปีนี้ก็เช่นกัน ขณะเดียวกัน เมื่อตลาดซบมาถึงระดับหนึ่งจะทำให้เราเห็นโอกาส ถ้าเลือกช่องทางที่เหมาะสม ดูตลาดให้ดี ยังสามารถทำให้เราลงทุนเพิ่มเติมได้ ซึ่งปีนี้เรายังเชื่อว่าเศรษฐกิจโดยรวมน่าจะดูดีขึ้นบ้าง”

ล่าสุด บริษัทฯ ได้ลุยต่อเนื่องเปิดตัวโครงการใหม่ ศุภาลัย ลอฟท์ รัชดาฯ-วงศ์สว่าง คอนโดฯ High Rise 18 ชั้น จำนวน 1,309 ยูนิต มูลค่าโครงการ 3,200 ล้านบาท ตั้งอยู่บนทำเลระหว่างกรุงเทพฯ-นนทบุรี ซึ่งเป็นทั้งพื้นที่อยู่อาศัยและเป็นพื้นที่แหล่งทำงาน เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ กลุ่มวัยทำงาน โดยวางเป้ายอดขายประมาณ 40-50% ในรอบ Pre – Sales ในวันที่ 22-23 ม.ค.นี้